เดอปาย ลั่น ขอแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีม ผีแดง

capture%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b8%a2-%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b9%81%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%95%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b8%99

ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลยุโรปสำหรับในรายของทางผู้เล่นของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตำแหน่งปีกอย่าง เมมฟิส เดอปาย ที่ทางเจ้าตัวย้ายมาเล่นกับทีมปีศาจแดงในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมาจากทีมอย่าง พีเอสวีไอน์โฮเฟ่น ด้วยค่าตัวประมาณ 25 ล้านปอนด์ด้วยกันแต่ทว่าผลงานของทางเจ้าตัวนั้นยังไม่สามารถที่จะทำผลงานกับทีมปีศาจแดงได้ดีเท่าที่ควรซึ่งงานนี้นั้นทางเจ้าตัวเคยมีข่าวว่าทางเจ้าตัวเคยมีความคิดที่จะย้ายทีมเลยด้วยซ้ำ ก็ตลอดซีซั่นที่ผ่านมานั้นทางเจ้าตัวทำประตูไปได้ไม่ถึงสิบลูกเลย เรียกได้ว่ายังไม่สามารถที่จะเล่นได้อย่างคุ้มค่าตัวที่ทางการของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายค่าตัวของทางผู้เล่นรายนี้ไปให้กับทีม พีเอสวี ประมาณนั้น แต่ทว่าพอเวลาทางทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของตัวกุนซือนั้นทางผู้เล่นรายนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับทางกุนซืออย่าง มูรินโญ่ แล้วว่าทางผู้เล่นรายนี้นั้นจะอยู่ในแผนการทำทีมของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน เป็นต้น

อีกทั้งทางตัวผู้เล่นอย่าง เดอปาย เองก็ต้องการที่จะอยู่พิสูจน์ตัวเองใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไปว่าทางเจ้าตัวมีดีพอที่จะเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปด้วยระยะเวลายาวๆ ได้ประมาณนั้นที่เราอาจจะต้องมาติดตามดูสถานการณ์ของทางผู้เล่นรายนี้กันต่อไปอีกครั้งหนึ่งก็แล้วกันนะครับผม เป็นต้น

โดยจุดเด่นของผู้เล่นรายนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นที่สามารถที่จะไปกับบอลได้อย่างคล่องตัวมากๆ เลยทีเดียวที่สุดท้ายแล้วนั้นสถานการณ์ของทางผู้เล่นรายนี้จะสามารถที่จะโชว์ฟอร์มการเล่นกับทีมปีศาจแดงได้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่นั้นเราอาจจะต้องมาติดตามดูสถานการณ์กันต่อไปก็แล้วกันนะครับผม เป็นต้น

 

วาร์ดี้เผยเหตุผลปฏิเสธปืน

capture%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2%e0%b9%80%e0%b8%ab%e0%b8%95%e0%b8%b8%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%9b%e0%b8%8f%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%aa

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าตัวเก่งของ เลสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจปฏิเสธที่จะย้ายเข้าไปอยู่กับ อาร์เซนอล ในช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อน เปิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และตัดสินใจต่อสัญญาอยู่กับทีมต้นสังกัดต่อไป โดยให้เหตุผลว่า ระบบการทำทีมของ อะเป็นปัญหาให้กับตัวของเขา ในเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับระบบของทีมในภายภาคหน้าาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เหมาะกับสไตล์ และรูปแบบการเล่นของเขา ซึ่งมันจะส่งผลกระทบ แล

เมี่อในช่วงที่ตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อน เปิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น มีกระแสข่าวอย่างหนักที่ทำให้มีคนติดตามกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยเป็นกระแสข่าวการย้ายทีมของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่สามารถระเบิดฟอร์ม และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถพา เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา มาครองได้สำเร็จ โดยกระแสข่าวในช่วงที่ผ่านมาระบุว่า นักเตะรายนี้เตรียมที่จะเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม และเข้าไปอยู่กับ อาร์เซนอล ในซีซั่นนี้ แต่ทว่าดีลในครั้งนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เมื่อนักเตะรายนี้ได้ปฏิเสธที่จะย้ายทีมในครั้งนี้ และตัดสินใจต่อสัญญากับทีมต้นสังกัดต่อไป

“เหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจปฏิเสธ อาร์เซนอล ในช่วงที่ผ่านมาและอยู่กับทีมต่อไปในซีซั่นนี้ ก็เพราะว่าผมมองว่า ระบบการทำทีมของกุนซือกับสไตล์การเล่นของผม มันต่างกัน และไม่เหมาะสมกันเท่าไหร่ ซึ่งมันจะเป็นปัญหาให้กับตัวของผมพอสมควรในการปรับตัวให้เข้ากับระบบของทีม” เจมี่ วาร์ดี้ ได้กล่าว

 

“เวนตูร่า” เตรียมเรียก !! “บาโลเตลลี่” ติดทีมชาติอิตาลีอีกครั้ง

capture%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b9%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%81

ตกเป็นข่าวว่าเตรียมที่จะคว้าอดีตลูกทีมเก่าอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้า นีซ กลับมาร่วมทีมให้ได้อีกครั้ง สำหรับ จามปิเอโร่ เวนตูร่า นายใหญ่ทีมชาติอิตาลี ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากที่นักเตะได้โชว์ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในลีกเอิง โดยนักเตะได้ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปร่วมทีม นีซ

มาริโอ บาโลเตลลี่ นักเตะกองหน้าทีม นีซ ทีมสโมสรชื่อดังแห่งศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ตกเป็นข่าวว่าอาจจะโดนทาง จามปิเอโร่ เวนตูร่า ผู้จัดการทีมชาติอิตาลี เตรียมที่จะเรียกกลับไปติดทีมชาติอิตาลีอีกครั้ง ในการลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มจี นัดที่พบกับสเปน หลังจากที่นักเตะได้ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมกับทีมต้นสังกัดในศึกลีกฝรั่งเศส

โดย เวนตูร่า เตรียมที่จะเรียกนักเตะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง หลังจากที่นักเตะไม่มีรายชื่ออยู่ในทีมชาติตั้งแต่จบศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย ที่ประเทศบราซิล โดยหวังจะคว้านักเตะมาร่วมงานเพื่อลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 นัดที่ปะทะกับ สเปน ก่อนที่จะบุกไปปะทะกับ มาเซโดเนีย

ทั้งนี้  นักเตะได้ย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล มาร่วมงานกับทาง นีซ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และก็ได้โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมสุด ๆ ซึ่งก็ต่างจากสมัยที่เล่นในแถบเมอร์ซี่ย์ไซด์ ด้วยการยิงประตูไป 4 ประตู จากการลงสนามฟาดแข้ง 3 นัดแรก ช่วยให้ทีมต้นสังกัดขึ้นมาเป็นผู้นำฝูงเรียบร้อยแล้ว

 

“คอนเต้” ปฏิเสธ !! ข่าวลือทะเลาะ “อบราโมวิช”

capture%e0%b8%84%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b9%89-%e0%b8%9b%e0%b8%8f%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%98-%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%a5%e0%b8%b7

ออกมากล่าวเปิดเผยว่าความสัมพันธ์กับทางประธานเจ้าของทีมอย่าง โรมัน อบราโมวิช ยังดีอยู่ ไม่มีปัญหาเรื่องบาดหมางแต่อย่างใดตามที่ข่าวออกมา สำหรับ อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ เชลซี แม้ว่าจะนำพาทีมต้นสังกัดทำผลงานได้ไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา เผยทุกอย่างยังเหมือนเดิม

อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีม เชลซี ทีมสโมสรชื่อดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ออกมากล่าวปฏิเสธเรื่องข่าวลือที่ว่ามีเรื่องบาดหมางกับทางประธานเจ้าของทีมอย่าง โรมัน อบราโมวิช  ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ระบุ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้จะมีผลงานที่ไม่ค่อยดีในฤดูกาลนี้ก็ตาม

โดย คอนเต้ ได้กล่าวว่า “ มันไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ผมได้มีการพูดคุยเรื่องฟุตบอลกับเขามาตลอด เรื่องการสื่อสารกับเขาก็ไม่มีอะไรด้วย ข่าวที่ออกมาว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริงเลย ผมกับเขาไม่มีเรื่องการขัดแย้งด้วย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นนักเตะ , สตาฟฟ์ และคนอื่น ๆ ในทีมด้วย “

ทั้งนี้  ทีมดังเริ่มต้นฤดูกาล 2016-2017 ด้วยฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บชัยชนะมาได้ 4 นัดรวด แต่หลังจากนั้นผลงานก็ย่ำแย่มาเรื่อย ๆ ซึ่งเสมอมา 1 นัด พ่ายแพ้ 2 นัด ในศึก 3 นัดศึกลีกเมื่อที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้สถานการณ์ของทีมดังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก เมื่อคว้าอันดับ 8 ในตารางศึกลีก

เบนเท็น โวอยากยกระดับให้เท่า โด้,เมสซี่

capture%e0%b9%80%e0%b8%9a%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b9%87%e0%b8%99-%e0%b9%82%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%83

อายุเอ็งมากแล้วนะ ! ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา เพลย์เมคกอร์ตัวเก่งชาว ฝรั่งเศส จากทีม นีซ เผยว่า อยากยกระดับฝีเท้าให้เทียบเท่ากับ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมระบุ ตนมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายคลึงกับหัวหอกอัจฉริยะลูกหนังชาว อาร์เจนไตน์ โดยเฉพาะการเลี้ยงบอลฝ่าวงล้อม แน่นอนการจบสกอร์ยังห่างชั้นกับ 2 ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนัง แต่ก็เชื่อว่าหากซุ่มฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเป็นไปได้ กล่าวทิ้งท้าย ดีลกับต้นสังกัดใหม่ไกล้ได้ข้อสรุปแล้ว

ฮาเต็ม เบน อารืกฟา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเอามากๆ หลังย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต้ด มาอยู่กับ นีซ เมื่อปี 2015 เบน อาร์กฟา ได้เล่นทุกตำแหน่งในแผงรุก ทั้งปีหซ้าย ปีกขวา กลางรุก หน้าต่ำ เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ดีทุกตำแหน่ง จำนวน 17 ประตู บวกกับ 11 แอสซิสต์ รวมทั้งสิ้น 34 แมตช์ ช่วยการันตีได้เป็นอย่างดีว่าเพลย์เมคเกอร์ชาว ฝรั่งเศส รายนี้ร้ายกาจมากแค่ไหน  นีซ จบอันดับ 4 บนตาราง ลีกเอิง ในซีซั่นนี้ นับว่าดีที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว ที่สำคัญทีมยังได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูโรป้า ลีก ด้วย

เบน อาร์กฟา กล่าว “ผมยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดเลยนะ ผมต้องการยกระดับตัวเองไปเทียบเท่ากับ เมสซี่ และ โรนัลโด้ ให้ได้ นั่นคือเป้าหมายของ ผมมีบางอย่างที่คล้ายกับพวกเขา การเลี้ยงบอลไงหล่ะ นอกนั้นยังต้องพัฒนา ”

หริด ชี้ทัพสิงโตต้องรักกันเหมือนคนในครอบครัว

capture%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%94-%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b8%95%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b1

สามัคคีคือพลัง ! แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกขาแดนซ์ชาว อังกฤษ จากทีม ลิเวอร์พูล เผยว่า ทัพ สิงโตคำราม อยู่กินกันเหมือนครอบครัวทำให้นักเตะเกิดความสามัคคี ไม่สำคัญว่ามาจากคนละทีมแล้วจะต้องเลือกให้ความสำคัญกับแค่บางคน นักเตะทุกคนแยกแยะได้ว่ารับใช้ทีมชาติควรวางตัวยังไง รับใช้สโมสรควรวางตัวยังไง เร้าเพื่อนร่วมทีมทุกคนรวมใจกันคว้าแชมป์ศึก ยูโร 2016 มาครองให้ได้ โอกาสไม่ได้น้อยไปกว่าทีมอื่น กล่าวทิ้งท้าย หากไม่ได้รับเลือกให้ลงเล่นเป็นตัวจริงก็พร้อมเข้าใจ และยอมรับการตัดสินใจของโค้ช พร้อมสนับสนุนนักเตะที่ถูกเลือกเต็มที่

แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หายเจ็บกลับมาลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล แบบเต็มสูบช่วงปลายปี 2015 หัวหอกตัวเก่งชาว อังกฤษ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากการซัด 13 ประตู บวกกับทำอีก 2 แอสซิสต์ ตลอดการลงเล่น 25 เกม รวมทุกรายการ ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมทำให้ รอย ฮ็อดจ์สัน ตัดสินใจเลือก สเตอร์ริดจ์ เป็น 1 ใน 23 ขุนพลทัพ ทรี ไลออนส์ ชุดลุยศึก ยูโร 2016 สเตอร์ริดจ์ ไม่ได้รับการการันตีว่าจะได้ลงเล่นเป็นหัวหอกตัวจริงในศึก ยูโร เนื่องจาก ฮ็อดจ์สัน ยังไม่เห็นว่าอดีตหัวหอกจากทีม ลิเวอร์พูล ฟิตเต็มร้อย

สเตอร์ริดจ์ กล่าว “ผมไม่ซีเรียสนะ หากไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโค้ช ผมพร้อมสนับสนุนเพื่อนเต็มที่ แน่นอนการอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัวทำให้เราแข็งแกร่ง ”

ไม่ไป มือเปล่า บิ๊กแซม ได้เงินชดเชยกว่า 1 ล้านปอนด์

capture%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%84%e0%b8%9b-%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%b2-%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b9%8a%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%8b%e0%b8%a1-%e0%b9%84

ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลยุโรปสำหรับในรายของทางกุนซือของทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่นั้นที่ในเวลานี้นั้นมันได้กลายเป็นอดีตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับผมจากการรายงานของทางสื่อในประเทศอังกฤษอย่าง เดลี่ เมลล์ ที่งานนี้นั้นทางกุนซืออย่าง บิ๊กแซม จะได้รับเงินค่าเหนื่อยชดเชยหลังจากที่ทางเจ้าตัวโดนยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดประมาณ 1 ล้านปอนด์ด้วยกัน จากกที่ทางเจ้าตัวดันไปตกหลุมพรางของทางนักข่าวที่ปลอมตัวไปเป็นนักธุรกิจชาวตะวันออกกลางในการที่จะวอนให้ทาง บิ๊กแซม ช่วยแหกกฎในเรื่องของการโยกย้ายนักเตะและในขณะเดียวกันนั้นทางนักข่าวรายนั้นยังได้มีการเสนอเงินให้กับทาง บิ๊กแซม สำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้อีกต่างหากด้วยเงินจำนวนประมาณ 400000 ปอนด์ด้วยกัน อีกทั้งงานนี้นั้นทางเจ้าตัวยังได้มีการเดินทางไปที่ มาเลเซีย สิงค์โปร์ ในฐานะฑูตอีกต่างหากประมาณนั้น โดยทางกุนซืออย่าง บิ๊กแซม ได้มีการตอบตกลงที่รับงานคุมทีมชาติ อังกฤษชุดใหญ่ต่อจากทาง รอยน์ ฮัดจ์สัน ที่ทางเจ้าตัวออกจากตำแหน่งกุนซือไปหลังจากที่จบการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ที่ผลงานของทีมาชาติอังกฤษไม่ค่อยจะดีซักเท่าไรประมาณนั้น เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วนั้นทางเจ้าตัวยังได้มีการวิจารณ์การทำงานของทาง ปู่รอยน์ ด้วยว่าเป็นการทำงานที่ไม่ค่อยจะเด็ดขาดซักเท่าไรในเรื่องของ จิตใจ ที่ทีมชาติอังกฤษยังคงขาดอยู่ประมาณนั้น เป็นต้น

โดยสถิติของทางเจ้าตัวที่ได้คุมทีมชาติอังกฤษนั้นจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งนัดเท่านั้น โดยทาง เอฟเอ ค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญของภาพลักษณ์ของตัวกุนซือเป็นอย่างมากเลยทีเดียวประมาณนั้น เป็นต้น